ประวัติ​ มิเกล​ เมริโน่ (Mikel Merino)



ชื่อเต็ม: มิเกล เมริโน่ ซาซูน (Mikel Merino Zazón)
วันเกิด: 22 มิถุนายน 1996
ปัมโปลนา, นาวาร์รา, สเปน
ตำแหน่ง: กองกลางตัวรับ, กองกลางตัวกลาง
ส่วนสูง: 188 เซนติเมตร

 จุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอล



มิเกล เมริโน่ เกิดและเติบโตในปัมโปลนา เมืองในแคว้นนาวาร์รา สเปน โดยมีพ่อที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน ทำให้เขามีความสนใจในกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก

เมริโน่เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลกับทีมเยาวชนของโอซาซูน่า สโมสรชื่อดังในเมืองปัมโปลนา บ้านเกิดของเขา เมื่ออายุได้เพียง 8 ขวบ และค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีอนาคตสดใสที่สุดของสโมสร

ในปี 2014 เมื่ออายุเพียง 18 ปี เมริโน่ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของโอซาซูน่า และเริ่มต้นลงเล่นในลีกเซกุนด้า ดิวิชั่น สเปน ฤดูกาล 2014-2015 โดยลงสนามครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2014 ในนัดที่พบกับบาร์เซโลน่า เบ

ผลงานกับทีมที่เคยเล่น

โอซาซูน่า (2014-2016)


   - เมริโน่ลงเล่นให้โอซาซูน่าชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2014-2015 โดยลงสนามทั้งหมด 29 นัด ยิงได้ 2 ประตู ทำให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกองกลางดาวรุ่งที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมในลีกเซกุนด้า
   - ในฤดูกาล 2015-2016 เขายังคงเป็นตัวหลักของทีม โดยลงเล่นอีก 38 นัด ยิงได้ 5 ประตู ช่วยให้โอซาซูน่าผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับกิมนาสติก เด ตาร์ราโกนา
   - ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรใหญ่ในยุโรป และในที่สุดเขาได้ย้ายไปร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (2016-2017)


   - ในปี 2016 เมริโน่ย้ายไปร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในบุนเดสลีกา เยอรมนี ด้วยค่าตัวประมาณ 3.75 ล้านยูโร
   - อย่างไรก็ตาม เมริโน่พบกับความยากลำบากในการปรับตัวกับฟุตบอลเยอรมันและการแย่งชิงตำแหน่งในทีมที่มีการแข่งขันสูง เขาลงเล่นให้ดอร์ทมุนด์เพียง 9 นัดในลีก และมักเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่
   - แม้ว่าเขาจะไม่สามารถแสดงผลงานได้อย่างเต็มที่ แต่ประสบการณ์ในการเล่นในลีกระดับสูงของเยอรมนีช่วยเสริมทักษะและความมั่นใจให้กับเขา

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (2017-2018)



   - หลังจากไม่ได้รับโอกาสมากนักในดอร์ทมุนด์ เมริโน่ถูกปล่อยยืมไปเล่นให้กับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017-2018 โดยมีออปชั่นในการซื้อขาด
   - เมริโน่สามารถปรับตัวกับพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว โดยลงเล่น 24 นัดในฤดูกาลแรก และทำได้ 1 ประตูสำคัญในนัดที่นิวคาสเซิลเอาชนะคริสตัล พาเลซ 1-0
   - การเล่นของเขาในพรีเมียร์ลีกได้รับการยกย่องว่าเป็นกองกลางที่มีวิสัยทัศน์ดี และการครองบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้ทีมนิวคาสเซิลตัดสินใจใช้ออปชั่นซื้อขาดด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์

เรอัล โซเซียดาด (2018-2024)



   - หลังจากเล่นในพรีเมียร์ลีกได้เพียงฤดูกาลเดียว เมริโน่ย้ายกลับไปเล่นในลาลีกา สเปน กับเรอัล โซเซียดาด ในปี 2018 ด้วยค่าตัวประมาณ 10 ล้านยูโร
   - เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของเรอัล โซเซียดาดทันที โดยลงเล่น 30 นัดในฤดูกาลแรกและช่วยทีมจบอันดับที่ 9 ในลาลีกา
   - ฤดูกาล 2019-2020 เมริโน่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยลงเล่น 37 นัด และมีส่วนช่วยให้เรอัล โซเซียดาดคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ หลังจากเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ในนัดชิงชนะเลิศ นับเป็นแชมป์ใหญ่รายการแรกของสโมสรในรอบ 34 ปี
   - ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับโซเซียดาด เมริโน่ลงเล่นมากกว่า 242 นัด และทำได้ 27 ประตู 30 แอสซิสต์​ ในทุกราย​การ​ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในลาลีกา ด้วยการเล่นที่มีความมั่นคง การผ่านบอลที่แม่นยำ และการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง

ผลงานกับทีมชาติสเปน


- เมริโน่เริ่มต้นเล่นให้กับทีมชาติสเปนตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยมีส่วนร่วมในทีมชาติสเปน U19 และ U21 ซึ่งในระดับ U21 เขามีบทบาทสำคัญในการพาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยูโร U21 ในปี 2017

- เขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2017 โดยลงสนามครั้งแรกในเกมกระชับมิตรที่พบกับทีมชาติโคสตาริกา เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017

- เมริโน่มีบทบาทในทีมชาติสเปนชุดใหญ่ในฐานะกองกลางที่สามารถเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ โดยลงเล่นในหลายรายการสำคัญ รวมถึงยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก และฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

- แม้จะไม่ได้เป็นตัวหลักในทีมชาติสเปน แต่เขายังคงมีส่วนร่วมในฐานะผู้เล่นที่สามารถช่วยทีมในการคว้าแชมป์​ยูโร​ 2024 ที่ประเทศ​เยอรมัน​เป็นเจ้าภาพ​

มิเกล เมริโน่เป็นนักเตะที่มีทักษะสูง ความเป็นผู้นำในสนาม และมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ เขาจะเป็นส่วนสำคัญในการนำพาอาร์เซน่อลสู่ความสำเร็จในฤดูกาลหน้า ขณะเดียวกันเขายังคงเป็นกำลังสำคัญที่ทีมชาติสเปนสามารถพึ่งพาได้ในอนาคต

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

10 นักเตะที่ย้ายทีมด้วยค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล

10 นักเตะที่มีรายได้มากที่สุดในปี 2024